การเทรดระหว่างวันคืออะไร และวิธีเทรดโดยใช้กลยุทธ์นี้

23 Apr, 2025 อ่าน 15 นาที

การเทรดระหว่างวันคืออะไร?

การเทรดระหว่างวันเทียบกับการเทรดแบบสวิง

กลยุทธ์การเทรดระหว่างวัน

1. การเทรดตามแนวโน้ม

2. การเก็งกำไร

3. การเทรดตามข่าว

ข้อดีและข้อควรระวังของการเทรดระหว่างวัน

ข้อดีของการเทรดระหว่างวัน

ข้อควรระวังของการเทรดระหว่างวัน

วิธีเข้าและออกฐานะสำหรับการเทรดระหว่างวัน

กลยุทธ์การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

รูปแบบกราฟแท่งเทียน

รูปแบบกราฟแท่งเทียน Engulfing

รูปแบบกราฟ Hammer

การจัดการความเสี่ยง

ข้อสรุป

การเทรดระหว่างคืออะไร?

การเทรดระหว่างวันหรือที่รู้จักในชื่อ 'การเทรดรายวัน' เป็นรูปแบบการเทรดที่เปิดและปิดฐานะทั้งหมดภายในวันเดียว แทนที่จะถือฐานะข้ามคืนหรือหลายวัน นักเทรดระหว่างวันวางแผนสร้างเงินกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้นภายในระยะเวลาหนึ่งวัน

การเทรดรูปแบบนี้มีประวัติยาวนาน ย้อนไปตั้งแต่การถือกำเนิดของเครื่องบันทึกข้อมูลซื้อขายหุ้นในปี 1867 ซึ่งใช้สายโทรเลขและรหัสมอร์สในการส่งราคาหุ้น ในสมัยนั้น การเทรดทั้งหมดดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ และกระดาษม้วนยาวแสดงกิจกรรมซื้อขายจากห้องค้าหลักทรัพย์แบบเรียลไทม์

การเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นในปี 1971 กับการเปิดตัวเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ (ECN) ตลาดดิจิทัลช่วยให้คนทั่วไปซื้อและขายหุ้นทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์แบบดั้งเดิมอีกต่อไป ECN ทำให้การเทรดรายวันเข้าถึงง่ายขึ้นและได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดรายย่อย ในปัจจุบัน แพลตฟอร์มเทรดและโบรกเกอร์ออนไลน์ยังใช้ ECN อย่างแพร่หลายเพื่อจับคู่ผู้ซื้อและผู้ขายอย่างมีประสิทธิภาพและมอบการเข้าถึงการเทรดรายวัน

การเทรดระหว่างวันเทียบกับการเทรดแบบสวิง

ขึ้นอยู่กับเงินทุน เวลาที่มี และระดับความเสี่ยงที่พร้อมยอมรับ นักเทรดเลือกระหว่างการเทรดแบบสวิงและการเทรดระหว่างวันได้

  • นักเทรดแบบสวิง ดำเนินการเทรดในกรอบเวลายาวกว่า เช่น กราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ และถือฐานะหลายวันหรือสัปดาห์
  • นักเทรดระหว่างวัน สนใจกรอบเวลาสั้นกว่า เช่น กราฟราย 15 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง นักเทรดระหว่างวันเปิดและปิดฐานะภายในไม่กี่นาทีเพื่อสร้างเงินกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยและบ่อยครั้ง

การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับคุณที่สุดเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการเริ่มเทรด การเทรดระหว่างวันจะเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและตึงเครียดกว่า ต้องตัดสินใจรวดเร็วและติดตามตลาดอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การเทรดระหว่างวัน

นักเทรดระหว่างวันใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อสร้างเงินกำไรสูงสุด เรามาดูกลยุทธ์การเทรดระหว่างยอดนิยมบางส่วนกัน

1. การเทรดตามแนวโน้ม

การเทรดตามแนวโน้มเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดระหว่างวันที่ใช้บ่อยและเชื่อถือได้มากที่สุด แนวคิดหลักไม่ซับซ้อน: ระบุทิศทางที่ตลาดกำลังเคลื่อนไหว (ขาขึ้น ขาลง หรือเคลื่อนไหวภายในกรอบราคา) แล้วเทรดตามนั้น

ในการเทรดตามแนวโน้ม นักเทรดต้องวิเคราะห์ตลาดเพื่อกำหนดทิศทางโดยรวมของตลาดก่อน เมื่อยืนยันแนวโน้มแล้ว จึงค่อยเข้าตลาดตามแนวโน้มและตั้งเป้าถือฐานะตลอดวันเพื่อสร้างเงินกำไรจากโมเมนตัม

อินดิเคเตอร์ทางเทคนิคต่าง ๆ ช่วยให้นักเทรดระบุและยืนยันแนวโน้ม เครื่องมือพื้นฐานประกอบด้วยเส้นแนวโน้ม เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และอินดิเคเตอร์โมเมนตัม เช่น ดัชนีกำลังสัมพัทธ์ (RSI) และเครื่องชี้การเคลื่อนไหวของราคาอื่น ๆ

ในตัวอย่างด้านล่าง คุณจะเห็นเส้นแนวตั้งจากด้านบนไปยังด้านล่าง ซึ่งเรียกว่าเส้นแบ่งวัน โดยแบ่งแต่ละวันเทรดในกราฟ การเคลื่อนไหวของราคาในระหว่างสองเส้นดังกล่าวเท่ากับหนึ่งวันเทรด ตั้งแต่ตลาดเปิดจนถึงตอนปิด

จากกราฟด้านบน ราคาทะลุลงต่ำกว่าเส้นแนวโน้ม ก่อนจะกลับมาทดสอบเส้นแนวโน้ม ส่งสัญญาณจุดเข้าขายที่เป็นไปได้ ณ จุดที่ 1 จุดเข้าปกติของนักเทรดสายการทะลุของราคา การยืนยันนี้ทำให้ฐานะขายสอดคล้องกับแนวโน้มขาลงที่เพิ่งเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการเทรดระหว่างวัน ฐานะจะถูกปิดก่อนที่ราคาจะวิ่งไปแตะจุดสิ้นสุดวัน ณ จุดที่ 2 ดังที่แสดงในเส้นแนวตั้ง รับประกันว่าการเทรดจะสิ้นสุดภายในช่วงการเทรดเดียว

2. การเก็งกำไร

การเก็งกำไร (Scalping) เป็นกลยุทธ์การเทรดระหว่างวันที่ผู้เริ่มต้นและนักเทรดที่มีประสบการณ์ใช้ ซึ่งเกี่ยวกับการพยายามใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยในไม่กี่นาที ในกรณีนี้ นักเทรดเปิดฐานะในหลักนาที ขึ้นอยู่กับทิศทางที่ราคาเคลื่อนไหว

การเก็งกำไรเหมาะกับนักเทรดรายวันซื้อขายบ่อยที่เฝ้าหน้าจอการเทรดเพื่อระบุความแตกต่างของราคาได้ เมื่อราคาสินทรัพย์ขยับขึ้น นักเทรดเปิดฐานะซื้อและปิดฐานะทันทีเมื่อราคาสินทรัพย์เริ่มลดลง

ซื้อ ขาย และปิดฐานะหลายครั้งตลอดวัน การเก็งกำไรเป็นกลยุทธ์การเทรดระหว่างวันที่เหมาะกับตลาดที่มีสภาพคล่องที่เปิดและปิดฐานะได้ง่ายดาย เมื่อพิจารณาความเสี่ยงขาดทุนสูงในตลาดผันผวน โปรดใช้กลยุทธ์นี้อย่างระมัดระวัง

3. การเทรดตามข่าว

ข่าวมักกระตุ้นให้ราคาเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ซึ่งนักเทรดมืออาชีพหลายคนใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ราคาสินทรัพย์มักขยับตามการตีความผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นของเหตุการณ์ข่าวต่าง ๆ โดยนักเทรด

เหตุการณ์ข่าวกระตุ้นความผันผวนสูง นักเทรดระหว่างวันจึงเปิดฐานะซื้อและขายได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ ปฏิทินเศรษฐกิจมีความสำคัญ เนื่องจากทำให้นักเทรดระหว่างวันทราบเหตุการณ์สำคัญที่อาจกระทบกับตลาดเป็นการล่วงหน้า

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรดในบทความกลยุทธ์การเทรด ปรับใช้อย่างไรให้เหมาะกับเป้าหมายของคุณใน 10 นาที?

ข้อดีและข้อควรระวังของการเทรดระหว่างวัน

ข้อดีของการเทรดระหว่างวัน

  • ไม่มีค่าธรรมเนียมข้ามคืน: เนื่องจากปิดฐานะทั้งหมดก่อนสิ้นวันเทรด จึงไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการถือฐานะข้ามคืนที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
  • เครื่องมือบริหารความเสี่ยง: ใช้ฟีเจอร์อย่าง Trailing Stop เพื่อปกป้องเงินกำไรหรือลดขาดทุนหากตลาดกลับทิศทางในช่วงระหว่างวัน
  • โอกาสในความผันผวน: ตลาดผันผวนสูงสร้างโอกาสเทรดมากมาย นักเทรดที่มีทักษะสร้างเงินกำไรจำนวนมากภายในกรอบเวลาสั้น ๆ

ข้อควรระวังของการเทรดระหว่างวัน

  • ต้นทุนธุรกรรมสูงขึ้น: การเทรดบ่อยครั้งมักหมายถึงจ่ายค่าคอมมิชชั่นและสเปรดมากขึ้น ซึ่งอาจลดทอนเงินกำไรของคุณในระยะยาว
  • ความเสี่ยงจากเลเวอเรจมากขึ้น: การใช้เลเวอเรจขยายผลตอบแทนได้ แต่ก็ขยายผลขาดทุนได้รวดเร็วเช่นกัน หากการเทรดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
  • พลาดแนวโน้มระยะยาว: เนื่องจากปิดการเทรดภายในวันเดียว นักเทรดระหว่างวันอาจพลาดการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายวันหรือสัปดาห์

วิธีเข้าและออกฐานะสำหรับการเทรดระหว่างวัน

การจับจังหวะคือทุกสิ่ง คุณต้องเปิดและปิดฐานะอย่างรวดเร็วและมั่นใจ ซึ่งจำเป็นต้องระบุจุดเข้าและจุดออกที่เหมาะสมในตลาด ด้วยเหตุนี้ นักเทรดระหว่างวันมักพึ่งพาเครื่องมือทางเทคนิคอย่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และรูปแบบกราฟแท่งเทียน ซึ่งช่วยไฮไลท์ระดับราคาที่เชื่อถือได้สำหรับการซื้อและการขายภายในวันเทรดเดียวกัน

กลยุทธ์การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

จากตัวอย่างด้านล่าง นักเทรดอาจใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้น เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) 50 วัน ซึ่งเส้น MA 50 อาจทำหน้าที่เป็นแนวโน้มระหว่างวัน หากราคาอยู่เหนือเส้น MA 50 วัน แนวโน้มเป็นขาขึ้น แต่หากราคาต่ำกว่าเส้น MA 50 แนวโน้มระหว่างวันเป็นขาลง ดังนั้น การเด้งลงจากเส้น MA 50 ถือเป็นสัญญาณระหว่างวัน ยิ่งกว่านั้น นักเทรดอาจใช้เส้น MA ที่มีระยะเวลาน้อยกว่า เช่น MA 13 เป็นสัญญาณออกจากการเทรด ราคาที่ปิดต่ำกว่าเส้น MA นี้เป็นสัญญาณออกจากการเทรด

เส้น MA สีเขียวน้ำทะเลเป็นค่าเฉลี่ย 50 วัน และเส้น MA สีแดงเป็นค่าเฉลี่ย 13 วัน นักเทรดอาจใช้ MA ชุดอื่นที่เหมาะสมได้

รูปแบบกราฟแท่งเทียน

กลยุทธ์การเทรดระหว่างวันจะไม่สมบูรณ์แบบ หากไม่เข้าใจความหมายของรูปแบบกราฟแท่งเทียนอย่างชัดเจน การรู้จำแท่งเทียนทำให้ระบุจุดเข้าและจุดออกฐานะได้ง่าย

รูปแบบกราฟแท่งเทียน Engulfing

รูปแบบกราฟแท่งเทียน Engulfing เกิดขึ้นเมื่อตัวเทียนมีขนาดใหญ่กว่าจน "กลืน" แท่งเทียนก่อนหน้า ยิ่งรูปแบบกราฟมีแท่งเทียนมากเท่าไร แนวโน้มก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น

รูปแบบกราฟ Bullish Engulfing เป็นสัญญาณขาขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตลาดเป็นขาลง และจู่ ๆ ก็เกิดแท่งเทียนขาขึ้นที่มีขนาดใหญ่จน "กลืน" แท่งเทียนขาลงก่อนหน้า

1. ตัวเทียนเล็ก
2. แท่งเทียนที่สอง "กลืน" ตัวเทียนของแท่งเทียนก่อนหน้า

รูปแบบกราฟ Bearish Engulfing ส่งสัญญาณขาย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตลาดเป็นขาขึ้น และแท่งเทียนขาลงที่แข็งแกร่งเกิดขึ้นแล้ว "กลืน" แท่งเทียนขาขึ้นก่อนหน้า

1. Bearish Engulfing

รูปแบบกราฟ Hammer

รูปแบบกราฟ Hammer แสดงการกลับทิศทางที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อตัวเทียนของแท่งเทียนอยู่ปลายด้านใดด้านหนึ่งของแท่งเทียน นักเทรดระหว่างวันอาจใช้รูปแบบกราฟนี้เพื่อเปิดการเทรดและตั้ง Stop Loss ตรงจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของแท่งเทียน

1. Hammer
2. Hanging Man

การจัดการความเสี่ยง

การเทรดระหว่างวันเกี่ยวกับการเทรดในกรอบเวลาสั้นกว่าและมีความเสี่ยงสูง ด้วยเหตุนี้ นักเทรดควรเปิดฐานะอย่างระมัดระวังเพื่อจำกัดผลขาดทุน เราขอมอบเคล็ดลับบางส่วนเพื่อช่วยให้คุณจัดการความเสี่ยงได้

  • รู้ตื้นลึกหนาบางของการเทรดระหว่างวันด้วยบัญชีทดลองเทรด
  • พิจารณากลยุทธ์ระยะยาวจนกว่าจะคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มเทรด
  • มีแผนการเทรดที่ดีพร้อมกลยุทธ์จัดการความเสี่ยง ด้วยวิธีนี้ คุณจะมีแนวทางให้ยึดปฏิบัติเสมอ แม้ตอนที่ตลาดเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
  • ทราบระดับความเสี่ยงที่พร้อมยอมรับและตั้งออเดอร์ Stop Loss เพื่อลดฐานะความเสี่ยงในตลาด

หากคุณมีแผนการเทรดที่ดี กลยุทธ์จัดการความเสี่ยงและมีความรู้เพียงพอ คุณจะใช้ประโยชน์จากการเทรดระหว่างวันที่ Octa ได้สูงสุด

ข้อสรุป

  • ลักษณะเด่นของการเทรดระหว่างวันคือเปิดและปิดการเทรดทั้งหมดภายในวันเดียว
  • นักเทรดตั้งเป้าสร้างเงินกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาเล็กน้อยผ่านแนวทางต่าง ๆ เช่น การเก็งกำไรหรือการเทรดตามแนวโน้ม
  • นักเทรดระหว่างวันต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพราะราคาอาจเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
  • นักเทรดมักพึ่งพาแนวโน้ม กราฟ และข่าวล่าสุดเพื่อทำการเทรดโดยมีข้อมูลครบถ้วน
  • เนื่องจากราคาผันผวน เป็นเรื่องสำคัญที่จะพิจารณาทุกแง่มุมของแนวทางนี้ ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ

มาเป็นนักเทรดมืออาชีพกับ Octa

สร้างบัญชีและเริ่มฝึกฝนตอนนี้

Octa